Olympiastadion เบอร์ลิน: ประวัติศาสตร์หน้าใหม่จะเกิดขึ้นที่นี่

ยูโร 2024 จัดการแข่งขันที่เยอรมนี แน่นอนว่าด้วยศักยภาพที่เคยรับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันทั้งฟุตบอลโลกและศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทำให้เจ้าภาพมีสังเวียนมากมายที่จะใช้รองรับการทั้งนักเตะและแฟนบอล แต่สนามกีฬาที่น่าสนใจที่สุดจากทั้งหมด 10 แห่ง

คือ Olympiastadion

สนามกีฬาแห่งชาติอันแสนเก่าแก่ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1936 เพื่อรองรับโอลิมปิก เกมส์ ก่อนจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ช่วงปี 2006 เพื่อรองรับฟุตบอลโลก และจะเป็นอีกครั้งที่ถูกใช้เป็นสถานที่ตัดสินหาแชมป์ในนัดชิงชนะเลิศ คำถามคือ โอลิมเปีย สตาดิโอน มีความพร้อมแค่ไหน? V9Bet จะพาทุกท่านไปหาคำตอบด้วยกัน

blog-img

สนาม Olympiastadion แห่งกรุงเบอร์ลิน

สนาม Olympiastadion แห่งกรุงเบอร์ลิน สังเวียนตัดสินแชมป์

หลังอกหักไม่ได้จัดโอลิมปิก เกมส์ 1916 เนื่องจากผลกระทบของสงครามโลกครั้งที่ 1 เวลาล่วงเลยมาถึงปี 1936 กรุงเบอร์ลินได้รับโอกาสอีกครั้งในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก แถมมันยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พรรคนาซีได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้รับอำนาจในการปกครองประเทศเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ดังนั้น แทนที่จะปรับปรุง Olympiastadion แผนการจึงแปรเปลี่ยนเป็นการสร้างศูนย์กีฬาแห่งชาตินามว่า Reichssportfeld ขึ้นมาใหม่ มอบหมายให้สองพี่น้องมาร์ช อย่าง แวร์เนอร์ และ วอลเตอร์ รับหน้าที่ดูแล

สิ่งที่น่าทึ่งคือ Reichssportfeld ใช้เวลาก่อสร้างแค่ประมาณ 2 ปี แต่นอกจากจะได้โอลิมเปีย สตาดิโอน แห่งใหม่มาใช้งาน ยังมีสนามใหม่อย่างไมเฟลด์ ความจุ 50,000 คน และอัฒจันทร์วัลบูห์เนอ ความจุ 25,000 คน ที่ถูกเนรมิตขึ้นด้วย เท่านั้นไม่พอยังมีสังเวียนกีฬาอีกหลากหลายประเภทที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 1936 ซึ่งผู้นำพรรคนาซีอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เตรียมมอบทั้งหมดให้แก่ราชวงศ์ Hohenzollern เป็นผู้ครอบครองหลังเสร็จสิ้นภารกิจในโอลิมปิก เกมส์ 1936

อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์สำคัญของ Reichssportfeld ยังคงอยู่ที่โอลิมเปีย สตาดิโอน นอกจากจะถูกขยับขยายความจุให้มากถึง 110,000 คน ยังมีการก่อสร้างอัฒจันทร์พิเศษสำหรับให้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และสมาชิกพรรคนาซี นั่งรับชม กีฬา V9Bet โดยเฉพาะด้วย ขณะเดียวกันยังมีการสร้างประตูมาราธอน เว้นช่องว่างเอาไว้ในสนามกีฬา เพื่อติดตั้งพื้นที่จุดคบเพลิง ส่งเสริมให้สังเวียนแห่งนี้ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก แต่น่าเสียดายที่เยอรมนีได้ครอบครองพื้นที่ไม่นาน มันก็ตกไปอยู่ในการครอบครองของสหราชอาณาจักร อันเป็นผลพวงมาจากการพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง

เรื่องดังกล่าวส่งผลให้ Reichssportfeld ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นฐานที่มั่นของกองทัพสหราชอาณาจักร เหลือเพียงแค่ Olympiastadion ที่ถูกใช้เป็นสังเวียนกีฬาดังเดิม นั่นทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใช้รองรับฟุตบอลโลก 1974 ภายใต้การเป็นเจ้าภาพของ เยอรมันตะวันตก กระทั่งปี 1994 จึงหวนกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวเยอรมันอีกครั้ง กระนั้นผู้คนในกรุงเบอร์ลินก็เริ่มถกเถียงกันว่าจะเก็บมันเอาไว้หรือรื้อทิ้งเพื่อสร้างใหม่ สุดท้ายมีการตัดสินใจปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2006

นั่นคือช่วงเวลาที่โอลิมเปีย สตาดิโอน กลับมาเจิดจรัสอีกครั้ง มันกลายเป็นรังเหย้าของสโมสรท้องถิ่นอย่าง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน อีกทั้งยังมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในวันกลับมาเปิดใช้งานเมื่อ 31 กรกฎาคม 2004 ซึ่งเล่นใหญ่จัดเต็มด้วยคอนเสิร์ตของศิลปินดัง Pink, Nena และ Daniel Barenboim ตามด้วยเกมกระชับมิตรในวันที่ 1 สิงหาคม 2004 ระหว่าง เยอรมนี vs บราซิล นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดงาน World Culture Festival ในปี 2011 รวมไปถึงการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์ยุโรป 2018

blog-img

สนามสุดไฮเทคแห่งเมืองหลวง

สนามสุดไฮเทคแห่งเมืองหลวงเยอรมนี ใช้จัดการแข่งขันแมตช์ไหนบ้าง?

Olympiastadion ถูกใช้เป็นสังเวียนหลักในการจัดการแข่งขันของเยอรมนีเสมอมา ย้อนกลับไปในศึกฟุตบอลโลก 2006 รองรับการแข่งขันทั้งหมด 6 เกม รวมถึงนัดชิงชนะเลิศ ที่ อิตาลี ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส สุดมัน 5-3 หลังเสมอกัน 1-1 ในเวลา 120 นาที และมีไฮไลต์สำคัญอย่างใบแดงของ ซีเนอดีน ซีดาน นอกจากนี้ยังเคยจัดนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2015 ที่ บาร์เซโลน่า ไล่ต้อนเอาชนะ ยูเวนตุส ด้วยสกอร์ 3-1

ส่วนในศึก ยูโร 2024 สถานที่แห่งนี้รองรับการแข่งขันทั้งหมด 6 เกม แต่ละเกมมีรายละเอียดดังนี้

รอบแบ่งกลุ่ม 3 แมตช์: แมตช์เด็ดสุดๆ สเปน vs โครเอเชีย

ยูโร เยอรมนี รอบแบ่งกลุ่ม โอลิมเปีย สตาดิโอน ได้รองรับการแข่งขันคู่เอกอย่าง สเปน vs โครเอเชีย ซึ่งเป็นการปะทะกันแสนสำคัญในกลุ่ม B ที่ถูกขนานนามว่ากลุ่มแห่งความตาย เพราะมีสองยักษ์ใหญ่ สเปน และ อิตาลี อยู่ร่วมสายเดียวกันม้ามืด โครเอเชีย ส่วนอีก 2 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม จะทำหน้าที่ดูแลการแข่งขันในกลุ่ม D ที่โหดหินไม่แพ้กัน เพราะสองทีมเต็งอย่าง ฝรั่งเศส กับ เนเธอร์แลนด์ ต้องเผชิญหน้า ออสเตรีย กับ โปแลนด์ ที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้เสมอ โดยจะเป็นการแข่งขันระหว่าง โปแลนด์ vs ออสเตรีย และ เนเธอร์แลนด์ vs ออสเตรีย

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

โอลิมเปีย สตาดิโอน ถูกใช้รองรับการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่างรองแชมป์กลุ่ม A vs รองแชมป์กลุ่ม B ซึ่งบทสรุปของคน ติดตามยูโร 2024 หากนับแค่เฉพาะ 90 นาที กำลังจะเป็นเจ้าภาพ เยอรมนี ที่ได้ดวลแข้งกับ โครเอเชีย แต่สุดท้าย เยอรมนี ตีเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ แซงกลับไปคว้าแชมป์กลุ่ม A เช่นเดียวกับแชมป์เก่า อิตาลี ที่ตีเสมอ โครเอเชีย แซงขึ้นไปคว้ารองแชมป์กลุ่ม B ส่งผลให้การแข่งขันคู่แรกของรอบน็อกเอาต์ ยูโร 2024 กลายเป็น สวิตเซอร์แลนด์ vs อิตาลี

รอบควอเตอร์ไฟนอล

รอบควอเตอร์ไฟนอล สังเวียนหลักอย่าง โอลิมเปีย สตาดิโอน จะถูกใช้รองรับการแข่งขันของผู้ชนะในคู่ที่ 43 และ 44 โดยคู่ที่ 43 เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง แชมป์กลุ่ม E ปะทะ อันดับ 3 ที่ดีที่สุด ที่มาจากกลุ่ม A, C หรือ D ซึ่งจากการ ทายผลบอล ยูโร 2024 คาดว่าแชมป์กลุ่ม E จะเป็น เบลเยียม ขณะที่อันดับ 3 กลุ่ม A เป็น ฮังการี แต่กลุ่ม C กับ D ยังต้องลุ้นในเกมสุดท้าย ส่วนคู่ที่ 44 เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง แชมป์กลุ่ม D ปะทะ รองแชมป์กลุ่ม F ซึ่งคาดว่าแชมป์กลุ่ม D จะเป็น ฝรั่งเศส หรือไม่ก็ เนเธอร์แลนด์ ขณะที่รองแชมป์กลุ่ม F จะเป็น ตุรกี

รอบชิงชนะเลิศ: แมตช์ตัดสินเจ้าวงการลูกหนังยุโรป 2024 นี้

ศึกยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ จะลงทำการแข่งขันที่ Olympiastadion ในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 ซึ่งหากใครยังไม่ทราบ การเลือกสังเวียนนัดชิงไม่ได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเจ้าภาพ หากแต่เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารยูฟ่า หลังจากที่ได้ทำความรู้จักทั้ง 10 สนาม ที่เยอรมนีส่งเข้าประกวด โดยการแข่งขันในรอบชิงจะใช้กฎกติกาปกติ นั่นคือหาผู้ชนะใน 90 นาที หากเสมอกันให้ต่อเวลาพิเศษ 30 นาที หากยังเสมอกันอีกให้ดวลจุดโทษตัดสิน ส่วนการเปลี่ยนตัวสามารถทำได้สูงสุด 3 ครั้ง รวมทั้งหมด 5 คน ภายในเวลา 90 นาที และจะมีการเพิ่มโอกาสเปลี่ยนตัวได้อีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

สนาม Olympiastadion มีความพิเศษอย่างไร? ทำไมถึงได้จัดรอบชิงชนะเลิศ?

สิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ โอลิมเปีย สตาดิโอน คือการออกแบบครึ่งล่างของสนามกีฬาให้อยู่ต่ำกว่าพื้นดิน 12 เมตร อีกทั้งยังปรับปรุงให้อัฒจันทร์ลาดเอียง 23 องศา ไล่ระดับลงสู่สนาม มอบอารมณ์ร่วมและความน่าตื่นตาตื่นใจในการรับชมและเสพ ข่าวยูโร มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ยังได้มีการเสริมพื้นที่หลังคาเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ซึ่งแม้จะทำให้ความจุจากเดิม 110,000 คน ลดเหลือ 71,000 คน แต่ได้เรื่องของความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม >> พาเปิดโลกทำความรู้จักกับ 3 เมืองหลักน่าสนใจ เจ้าภาพยูโร 2024

 

blog-img

ติดตามยูโรกับ V9Bet

ติดตามยูโร 2024 ตั้งแต่วันนี้จนถึงรอบไฟนอล เว็บไซต์แทงบอลที่เชื่อถือได้

 

V9bet เว็บแทงบอล ขอเชิญพี่น้องชาวไทยมาร่วมติดตามยูโร 2024 ไปพร้อมกัน เรามีข้อมูลข่าวสารเอื้อให้ทุกท่านไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เยอรมนี ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมร่วมสนุกให้ได้ทายผลบอลเพื่อสร้างรายได้เสริมกันด้วย พิเศษสุดคือ สมัครสมาชิกใหม่ วันนี้รับสิทธิ์ดูบอลสดฟรีตลอดชีพ ซึ่งแน่นอนว่าสิทธิประโยชน์นี้ไม่ได้สิ้นสุดลงแค่ยูโรเท่านั้น แต่ยังลากยาวไปจนถึงเกมลูกหนังจากทั่วทุกมุมโลก

 

บทสรุป

 

Olympiastadion คือสนามฟุตบอลเพียงไม่กี่แห่งที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลังและเอกลักษณ์ มันคือสังเวียนที่โอบกอดความฝันของผู้คนในวงการลูกหนังมาแล้วมากมาย อีกทั้งยังผ่านเหตุการณ์ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์อย่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว แน่นอนว่าในศึกยูโร 2024 จะเป็นอีกครั้งที่สถานที่แห่งนี้ได้บันทึกประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ร่วมติดตามวันแห่งความทรงจำนี้ไปพร้อมกันได้ที่ V9Bet เว็บเดิมพันบอลยูโร หมายเลขหนึ่งของเอเชีย