3 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ ยูโร 2024 คือทีมใดบ้าง มาดูกัน

เสร็จสิ้นลงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับรอบคัดเลือก เวลานี้เราได้ 3 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ ยูโร 2024 เบ็ดเสร็จครบตามโควตา 24 ชาติ ที่จะไปชิงชัยในรอบสุดท้าย ณ ประเทศเยอรมนี ช่วงระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ถึง 14 กรกฎาคม 2567 ซึ่งบอกได้คำเดียวว่างานนี้มันระเบิด เพราะเหล่ายักษ์ใหญ่พาเหรดกันมาพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เก่า อิตาลี หรือ เซอร์เบีย ที่ห่างหายไปนานกว่า 24 ปี แต่วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 3 ชาติ ที่คว้า 3 โควตาสุดท้าย ว่าพวกเขาควรค่าแค่ไหนที่จะลงสนามในทัวร์นาเมนต์นี้

ผลการแข่งขันรอบเพลย์ออฟสุดเร้าใจที่ผ่านมา

การแข่งขันในรอบคัดเลือกของศึก ยูโร 2024 มีทีมเข้ารอบ 53 จาก 55 ชาติสมาชิกยุโรป โดยเจ้าภาพ เยอรมนี ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติ ขณะที่ รัสเซีย โดนแบนจากเหตุผลด้านการเมือง ส่งผลให้ 10 กลุ่ม จะมีจำนวนทีมไม่เท่ากัน กล่าวคือ 7 กลุ่ม จะมี 5 ทีม และ 3 กลุ่ม จะมี 6 ทีม ไม่นับรวมบางชาติที่ไม่อาจอยู่ร่วมกลุ่มกันได้ เนื่องจากมีข้อพิพาททางการเมืองกันอยู่ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งหมดลงทำการแข่งขันแบบเหย้าเยือน เพื่อหาแชมป์และรองแชมป์กลุ่มเข้าสู่รอบสุดท้าย
ความพิเศษคือจะมีตั๋วที่ว่างอยู่อีก 3 ใบ นอกเหนือไปจาก 20 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โควตาส่วนนี้ทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จะนำเอาทีมที่ไม่ผ่านเข้ารอบและมีผลงานที่ดีในศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก มาทำการเพลย์ออฟ ผลปรากฏว่า โปแลนด์ เอาชนะจุดโทษ เวลส์ สุดมัน 5-4 ขณะที่ ยูเครน เฉือน ไอซ์แลนด์ หืดจับ 2-1 ขณะที่ จอร์เจีย ก็เอาชนะจุดโทษ กรีซ ไป 4-2 ปิดฉากรอบเพลย์สุดตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมได้ครบทั้ง 24 ชาติ ที่จะไปชิงชัยในเยอรมนี

มาทำความรู้จักกับ 3 ทีมชาติล่าสุดที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ยูโร 2024

โปแลนด์, ยูเครน และ จอร์เจีย คือ 3 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ ยูโร 2024 พวกเขาคู่ควรกับตั๋วไปลุยรอบสุดท้ายมากแค่ไหน ศักยภาพมีมากพอต่อกรกับบรรดายักษ์ใหญ่ได้หรือไม่ หัวข้อนี้ V9Bet จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักพวกเขาในเชิงลึก บางทีม้ามืดของการแข่งขันอาจเป็นหนึ่งในพวกเขาก็ได้

blog-img

ทีมชาติโปแลนด์

ทีมชาติโปแลนด์

โปแลนด์ ผ่านเข้าไปลุยศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย มาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง แบ่งออกเป็นยูโร 2008 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม, ยูโร 2012 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะเจ้าภาพร่วม, ยูโร 2016 ที่ผ่านไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และยูโร 2020 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่ผลงานที่น่าพอใจสักเท่าไร กระนั้นหากย้อนกลับไปในอดีต นี่คือชาติมหาอำนาจของวงการลูกหนังยุค 70s และ 80s ผลงานการคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 1974 และ 1982 รวมไปถึงเหรียญทอง โอลิมปิก เกมส์ 1972 และเหรียญเงิน โอลิมปิก เกมส์ 1976 ควรค่าแก่การยกย่อง

อย่างไรก็ตาม ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนค่อนข้างมากในแคมป์ “อินทรีขาวแดง” โดยเฉพาะตำแหน่งกุนซือที่หมุนเวียนการเป็นเก้าอี้ดนตรี จาก เปาโล ซูซ่า, เชสลาฟ มิชนีวิชซ์ จนถึง แฟร์นานโด้ ซานโต๊ส ส่งผลให้ทีมขาดความต่อเนื่อง กระทั่งสุดท้ายเลือกดัน มิชาล โปรเบียร์ซ จากทีม U21 ขึ้นมา แม้ผลงานอาจไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่คน เดิมพันบอลสด คาดหวัง แต่ก็พาทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่เยอรมนีได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าเขาดีพอจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่

ส่วนขุมกำลังในแคมป์โปแลนด์ยุคปัจจุบัน แกนหลักยังคงเป็นจอมเก๋าที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไล่ตั้งแต่กัปตันทีม โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ผู้รักษาประตู วอยเซียค เซสนี่, ห้องเครื่อง ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ และปราการหลัง ยาน เบดนาเร็ค สอดแทรกด้วยแข้งหนุ่มสายเลือดใหม่อย่าง ยาคุบ คิวิออร์ จากอาร์เซนอล, แม็ตตี้ แคช จากแอสตัน วิลล่า, นิโกล่า ซาเลฟสกี้ จากโรม่า และ คาโรล สวิเดอร์สกี้ จากเฮลลาส เวโรน่า หากวัดกันที่คุณภาพถือว่าไม่ธรรมดา

blog-img

ทีมชาติยูเครน

ทีมชาติยูเครน

ยูเครน ผ่านเข้าไปลุยศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย มาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง แบ่งออกเป็นยูโร 2012 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะเจ้าภาพร่วม, ยูโร 2016 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม และยูโร 2020 ที่ผ่านไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งต้องยอมรับว่ายุคทองของพวกเขาผ่านพ้นไปนานแล้ว นับตั้งแต่โลกได้รู้จักกองหน้าที่ยิ่งใหญ่อย่าง อังเดร เชฟเชนโก้ กัปตันทีมผู้สร้างเซอร์ไพรส์พาทีมทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2006 อันเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบันของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม พลพรรค “ขุนพลฟ้าเหลือง” ถือเป็นชาติที่ V9Bet เว็บแทงบอลออนไลน์ ให้ความเคารพ แม้พวกเขาจะไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ในวงการลูกหนัง แต่ที่ผ่านมาใช้บริการของกุนซือบ้านเกิดยูเครนมาตลอด โดยเจ้าของตำแหน่งคนปัจจุบันคือ เซอร์เก เรปรอฟ อดีตหัวหอกในยุคเดียวกับ เชฟเชนโก้ ซึ่งผลงานถือว่าไม่ธรรมดา เข้ามากุมบังเหียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2023 แต่นำทีมชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 1 เกือบตีตั๋วเข้ารอบอัตโนมัติ แต่น่าเสียดายที่ประตูได้เสียเป็นรอง อิตาลี

โดยขุมกำลังในมือของ เรปรอฟ ยุคปัจจุบัน จะเน้นไปที่กลุ่มผู้เล่นสายเลือดใหม่ ไล่ตั้งแต่ โรมัน ยาเรมชุค หัวหอกจากบาเลนเซีย, มิไคโล่ มูดริค ปีกจรวดจากเชลซี, โอเล็กซานเดอร์ วินเชนโก้ แข้งอเนกประสงค์จากอาร์เซนอล, อิลเลีย ซาบาร์นี่ ปราการหลังจากบอร์นมัธ, วิตาลี มีโคเลนโก้ แบ็กซ้ายจากเอฟเวอร์ตัน และ อังเดร ลูนิน มือกาวจากเรอัล มาดริด เหลือตัวเก๋าที่พอคุ้นหน้าคุ้นตาแค่ เซอร์เก ซีดอร์ชุค และ รุสลัน มาลินอฟสกี้ เท่านั้น

ความหลากหลายของเกม

blog-img

ทีมชาติจอร์เจีย

ทีมชาติจอร์เจีย

จอร์เจีย คือชาติเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลดำ มีประชากรแค่ราว 4 ล้านคน เรื่องราวในโลกลูกหนังแทบไม่มีอะไรให้พูดถึง แม้จะเคยก้าวไปไกลถึงอันดับ 42 โลก ช่วงปี 1998 แต่ไม่เคยเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ใหญ่แม้แต่ครั้งเดียว แถมคราวนี้เรื่องราวก็แทบไม่ต่างกัน เพราะจบรอบคัดเลือกในฐานะอันดับ 4 กลุ่ม A กระนั้นยังมีบุญมากพอจะได้ร่วมเพลย์ออฟ จากผลงานอันยอดเยี่ยมในยูฟ่า เนชันส์ ลีก ซึ่งผลปรากฏว่าพวกเขาขีดเขียนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะจุดโทษ กรีซ อดีตแชมป์ยูโร 2004 กลายมาเป็น 3 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ ยูโร 2024

อย่างไรก็ตาม หากเอ่ยถึงศักยภาพของทั้ง 24 ชาติ ในรอบสุดท้ายที่เยอรมนี พลพรรค “นักรบครูเสด” คือทีมที่ทีมงาน เว็บดูยูโร 2024 ให้ค่าตีราคาน้อยที่สุด กระนั้นเราต่างทราบดีว่าในโลกลูกหนังอะไรก็เกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับ จอร์เจีย ที่กำลังมองไปข้างหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ กุนซือหนุ่ม วิลลี่ ซาญอล ถูกดึงมาวางรากฐานทีมชุดนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 แม้ผลงานจะยังไม่โดดเด่นมาก ชนะ 16 เสมอ 5 แพ้ 12 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเกมรุกที่ยิงไปถึง 55 ประตู จาก 33 เกม เฉลี่ย 1.66 ลูก/เกม หากปรับปรุงเกมรับให้เหนียวแน่นจะกลายเป็นทีมที่น่าจับตามองทันที

ที่สำคัญคือขุมกำลังของ จอร์เจีย เป็นสายเลือดใหม่ที่กระจัดกระจายค้าแข้งในทวีปยุโรป ดาวดังที่แฟนบอลชาวไทยน่าจะรู้จักก็เช่น ควิช่า ควารัตส์เคเลีย คีย์แมนจากนาโปลี, จอร์จี้ ชัคเวตัดเซ่ เพลย์เมคเกอร์จากวัตฟอร์ด, จอร์จี้ โคโชราชวิลี่ ห้องเครื่องจากเลบานเต้ และ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ มือกาวจากบาเลนเซีย โดยยังมีปราการหลังวัย 36 ปี กูรัม คาเชีย คอยบัญชาการเกมรับ ทำหน้าที่เป็นทั้งกัปตันทีม และตำนานที่ยังมีลมหายใจ ด้วยสถิติลงสนามมากสุดในประวัติศาสตร์ 112 เกม

สามารถเกาะติดข่าวอัพเดตเกี่ยวกับยูโร 2024 ได้ที่ V9Bet

ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของศึก ยูโร 2024 ไปกับทีมงานคุณภาพของ V9Bet เราขออาสานำพาทุกท่านออกเดินทางไปยังเยอรมนีพร้อมกัน สำรวจศักยภาพของทั้ง 24 ชาติ ที่จะลงชิงชัยในเวทีลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป พรีวิวความสมบูรณ์พร้อมก่อนลงสนามฟาดแข้ง และอัปเดตผลการแข่งขันก่อนใครตลอด 24 ชั่วโมง แถมไม่ได้มีแค่ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเท่านั้น เพราะเราพร้อมเสิร์ฟทุกเรื่องราวของวงการลูกหนังให้คุณผ่านหน้าจอ

อ่านเพิ่มเติม >> ราฮีม สเตอร์ลิง เผยต้องการเข้าร่วมยูโร 2024 กับทีมชาติอังกฤษ

บทสรุป

ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปคือหนึ่งในเวทีที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้าจับตามอง เพราะมันคือการเผชิญหน้ากันของดาวเตะคุณภาพเยี่ยมมากมาย แถมที่ผ่านมายังมีเหตุการณ์ให้เซอร์ไพรส์ได้เสมอ ไล่ตั้งแต่เทพนิยายเดนส์ ยูโร 1992 ไปจนถึงเทพนิยายกรีก ยูโร 2004 ซึ่งบอกได้เลยว่าปีนี้การขับเคี่ยวก็ยังคงเต็มไปด้วยความดุเดือด โดยเฉพาะ 3 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ ยูโร 2024 อย่าง โปแลนด์, ยูเครน และ จอร์เจีย ที่พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่